Monday, July 12, 2010

การเลี้ยงปลาดุก

ศึกษาการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก หรือ บ่อปูน

การขุดบ่อ

STA45213 STA45234

STA45235 STA45241

การซื้อพันธุ์ ปลาดุก ต้องเป็นปลาดุก รัสเซียเท่านั้นนะครับ

การเลี้งให้อาหาร

STA45266 STA45288

STA45287

การเลี้ยงกบ

ศึกษาการเลี้ยงกบ

หาพันธ์กบ

สร้างบ่อ

STA44620STA44612

การเจริญเติบโตของกบ

STA44802STA45097

พอโตแล้วก็ขายได้หรือเอาไว้กินได้

STA45275STA45278

การเลี้ยงต้องสะอาดถึงจะน่ากิน ถ้าเลี้ยงบ่อดินต้องระวังกบมีกลิ่นน้ำคลำ

การดูว่ากบสมบูรณ์ไหม ให้ดูเครื่องในนะครับ ตับต้องไม่เป็นหนอง ยิ่งมีมันเหมือนกบนายิ่งสมบูรณ์

ของผม 6- 8 ตัว ต่อ 1 กิโล ขายดีมากเพราะไม่เหม็นกลิ่นโคลน ไม่คาว

แต่การเลี้ยงกบต้องมีน้ำพอสมควรนะครับ ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย กบจะไม่คาว


เทคนิค การเลี้ยงกบ
การเลี้ยงกบครั้งแรกอย่าคิดหากำไรนะครับ ให้คิดหาประสบการณ์นะครับ
การเลี้ยงกบมีหลักการวิเคราะห์ วางแผนการดังนี้
1 พันธุ์กบ ==== ค้นหา สอบถาม ตัดสินใจ เลือกซื้อ ตรงนี้แล้วแต่นะครับว่าจะได้พันธุ์ดีไม่ดีเพราะบางพื้นที่อาจจะหายาก ซึ่งราคาอยู่ประมาณตัวละ 3 บาทครับที่โคราช
2 บ่อกบ ==== การทำบ่อกบแนะนำให้หาอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วเพื่อความประหยัดนะครับสำหรับทดลองเลี้ยงครั้งแรก อย่าลงทุนแพงครั้งแรกเพราะประสบการณ์จะสอนเราเอง
3 การให้อาหารและการดูแล ==== การให้อาหารควรเป็นอาหารปลาดุกเพราะสารอาหารของกบกับปลาดุกใกล้เคียงกันคือสัตว์กินเนื้อ และให้ 2 ครั้งเช้าเย็น
4 การจัดจำหน่าย ==== เมื่อกบโตเราก็จับกินเป็นอาหารจะได้ประยัดรายจ่าย แต่ถ้ามันมีมากก็ขายเอาค่าอาหาร ค่าต้นทุนบ้าง แต่ตลาดจะหายากสักหน่อยนะครับ
พันธุ์กบ
ตามหลักแล้วเราสามารถเพาะพันธุ์ได้เองแต่ผมจะแนะนำการเริ่มต้นครั้งแรกนะครับสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ คือจะแนะนำโดยการซื้อครับเพระว่าเราเลี้ยงกบโตได้แล้วค่อยคิดที่จะเพาะพันธุ์เองครับ ถ้าเราไม่สามารถเลี้ยงกบให้โตได้ก็อย่าหวังว่าจะเพาะกบเองได้ครับ การซื้อผมก็ไม่ได้ใช้ข้อมูลมากนักเพราะว่าลูกกบหายากสำหรับผมครับบางทีก็เลือกไม่ได้ต้องขอซื้อหนะครับ ตัวละ 3 บาทครับ ผมซื้อมา 300 ตัวเค้าคิด ตัวละ 3 บาท รวมแล้ว เป็น 500 บาทพอดีครับ (เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันครับ ก็เลยลดให้ ) แต่ว่าเค้าก็แถมมาด้วยนะครับ เยอะอยู่ ผมซื้อมาเลี้ยง ช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงหน้าหนาวพอดี จะเลี้ยงยากนิดนึงครับ เพราะอากาศมันเย็นกบจะตายง่าย บางตัวอยู่กับปูนเย็นๆ ก็หนาวตายก็มี
บ่อกบ
การทำบ่อกบผมแนะนำให้ทำตามอุปรณ์ที่มีอยูแล้วนะครับ จะได้ประหยัด ซึ่งบ่อกบที่ดีที่สุดของตัวเราจะยังไม่ได้ในบ่อแรกหรอกครับ มันจะได้ในบ่อต่อๆ ไปครับ เพราะบ่อแรกเป็นเพียงประสบการณ์ครั้งต่อไปเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วเราจะออกแบบได้อย่างใจต้องการ การทำบ่อกบสำคัญอยู่ 2 ส่วนคือ ต้องกันกบไม่ให้ออกจากบ่อได้ และต้องเปลี่ยนน้ำง่ายสะดวก แค่นี้พอครับ ที่อยู่ของมันไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมันก็จะมีที่อยู่ของมันเอง แต่มีข้อแม้ว่าอย่าใส่กบในปริมาณมากจนเกินไปนะครับ ของผม 2*2.5เมตรใส่กบไปประมาณ 300 กว่าตัว ตอนมันโตรู้สึกว่า บ่อมันแคบยังไงไม่รู้นะครับ เลี้ยงในปริมาณที่น้อยแต่ให้อัตราการรอดเยอะๆ ดีกว่านะครับ
-การกั้นบ่อกบ เราอาจนะใช้ตาข่ายสีฟ้าก็ได้ครับ สำหรับครั้งแรก แต่ของผมใช้สังกะสีครับ มีเหตุผลครับ คือ ธรรมชาติของกบถ้ามันมองเห็นภายนอกได้มันจะกระโดดออกครับ พอมันกระโดดแล้วมันก็จะทำให้ปากเป็นแผลครับ ผมคิดอย่างนั้นนะครับ สังกะสี สูงประมาณ 50 เซ็นต่อด้วยตาข่ายพลาสติกสีดำรอบบ่อ ดีครับ กันแมวได้ด้วย ช่วงแรกๆ แมวจะได้กลิ่นคาวกบ และก็จะมาวนเวียนเรื่อยๆ แต่ก็เข้าไม่ได้ ส่วนหลังคาผมใช้ แสลนครับปิดไว้ แค่นี้ก็โอเค ครับ สำหรับเรืองการขังกบหรือกันกบไม่ให้ออกและกันไม่ให้สัตว์อื่นเข้าไปกินกบ ระวังให้ดีนะครับ กับงู มันจมูกไวนะครับ ต้องสร้างบ่อดีๆ
- การออกแบบเกี่ยวกับการถ่ายน้ำ การออกแบบต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนน้ำด้วยครับ หรือจะทำลูกผสมอย่างของผมก็ได้ครับ คือ ภายในบ่อแบ่งเป็นบ่อน้ำต่างหาก และเป็นพื้นที่อยู่ต่างหาก คือผมสั่งทำ บ่อกลม(ถังส้วม) สูง 15 เซ็น เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร จำนวน 2 วง ทำเป็นบ่อ เพราะผมไม่ต้องการ ลาดปูนครับ กลัวเสียพื้นที่หน้าดิน และหลักการของผมคือต้องการประหยัดน้ำครับ ใส่น้อย เปลี่ยนบ่อยๆ ดีครับ ถ้าไม่ค่อยเปลี่ยนมันจะเหม็นคาวครับ เพราะกบจะมีน้ำเมือกออกมาทุกวันใครเลี้ยงกบไม่เปลี่ยนน้ำกบจะไม่น่ากินกลิ่นคาวจะติดตัวกบล้างก็ไม่หายครับ นี่แหละครับคือเหตุผลที่ลูกค้าเค้าเลือกซื้อเพราะมันไม่คาวนะครับ ปล. พยายามหลีกเลี่ยงบ่อดินนะครับ เพราะกบมันจะกินดินและตัวมันจะคาวครับ
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
การให้อาหาร
การให้อาหารกบ ผมให้เช้าเย็นครับ 2 ครั้งต่อวัน ให้อาหารปลาดุกเม็ดเล็ก ตอนกบตัวเล็ก ประมาณ เดือนครึ่งกบจะเริ่มโต จึงเปลี่ยนเป็นอาหารเม็ดขนาดกลาง ส่วน อัตราการให้ ก็ให้กินจนเราพอใจนะครับ คือ กบกินอาหารดีก็จะให้เยอะ บางบ่อขี้อายไม่ค่อยกินอาหาร ก็ให้น้อย สรุปคือ ตามความเหมาะสมหละครับ อาหารไม่ต้องแช่น้ำนะครับ บางคนหว่านลงในบ่อน้ำ บางคนให้ในภาชนะ ของผมให้ในภาชนะครับ มันจะโดดขึ้นมากิน เห็นๆ และกบมันจะชอบกินอาหารที่เคลื่อนที่ได้นะครับ ถ้าเราโยนอาหารไปหล่นใกล้ๆ ตัวมัน มันจะ งับเหมือนกินแมงเลยครับ และข้อดีอีกอย่างคือ อาหารจะเหลือติดภาชนะไว้ให้ตัวที่ขี้อายขึ้นมากินตอนเงียบๆ หรือตอนดึกครับ ควรหลีกเลี่ยงการล้างบ่อหลังจากให้อาหารใหม่ๆ เพราะจะทำให้มัน ตายครับ ควรให้มันอาบแดดจนอาหารย่อยก่อนค่อยทำการล้างบ่อนะครับ
การดูแลรักษา
ไม่ยากเลยครับ ถ้าน้ำเหม็น ก็เปลี่ยนน้ำ พยายามอย่าทำให้กบตกใจครับ มันจะไม่ค่อยกินอาหาร พยายามสักเกตุพฤติกรรม ของกบในแต่ละวันให้ดีนะครับ ถ้าวันไหนไม่เหมือนทุกวันก็พยายามหาสาเหตุให้ได้นะครับ ถ้าแก้ได้ก็แก้ แต่ถ้าสุดวิสัยก็ไม่เป็นไร เช่น ตอนเช้า พอแดดออกเิริ่มจะแรงจะร้อนกับมันจะออกมาอาบแดดครับ ถ้าไม่ออกมา ก็แสดงว่าผิดปรกติ ของผมมีทั้งอากาศหนาวจัด อุณภูมิลดกระทันหัน หรือ ว่ามีแมวมาเดินวน แต่ที่เห็นได้ชัดคือ กบมันได้กลิ่่นงูครับ ไม่ค่อยออกมากินอาหาร และดูตัวมันไม่เปล่งปลั่งด้วย หลังจากวิเคราะอยู่ 2 วันก็เจองูกินลูกกบอยู่นอกบ่อครับ เพราะงูมันเข้าบ่อไม่ได้ แต่ว่า มีกบบางตัว ออกมาได้ และเราก็จำเป็นต้องฆ่างูครับเพื่อกำจัดศัตรูของกบ การฆ่าก็ระวังหน่อยนะครับ ถ้าใครไม่สันทัดเรื่องงู งูบางตัวมีพิษถ้ารู้ก็ให้หลีกเลี่ยงการฆ่านะครับ มันอันตราย ถ้าเจองูสิงก็ จัดเลยครับ แต่ต้องดูให้ดีนะครับ การฆ่างูมีหลายวิธี เราอาจจะใช้ตาข่ายดักปลามาดักงูก็ได้ครับ หรืออาจจะใช้เบ็ดปัก เกาะคางเขียดแล้วปล่อยไว้ก็ได้ แต่ที่ผมถนัดก็คือ ใช้ฉมวกแทงครับ แต่ต้องระวังงูัมันพ่่นพิษด้วยนะครับ ผมป้องกันโดยการต่อไฟไว้ที่ปลายฉมวกครับ แล้วก็แทงตรงไหนก็ได้แต่ต้องแน่ใจว่ามีไฟจริงนะครับโดยใช้ไขควงเช็คไฟ ตรวจสอบให้ดี กรณีนี้สำครับคนที่รู้เรื่องไฟฟ้านะครับ ผมเป็นช่างไฟบ้านครับ ก็พอมีความรู้ แต่ว่าผมจะคิดป้องกันซะมากกว่าครับ เพราะผมไม่ได้ไปจัดการเอง ผมป้องกันโดยการ ทำสิ่งแวดล้อมให้สะอาด เป็นระเบียบ ไม่รก งูมันจะไม่กล้าเข้ามาครับ โดยธรรมชาติงูมันจะไม่อยู่ในที่โลงหรอกครับ มันกลัวคนเห็นมันจะเหมือน นินจานะครับ ต้องวิ่ง แล้วก็หลบ หลบ แล้วก็วิ่ง ผมทำสิ่งแวดล้อมดีแล้ว มันก็ไม่กล้ามาครับ สิ่งแวดล้อมที่ดีคือ 1 ก้องไม้ เอาออกไปให้ใกลครับ หญ้าที่รกๆ ถางออก หรือทำเป็นสวนหย่อมก็ได้ครับ
ส่วนเรื่องนก ไม่มีปัญหาหรอกครับเพราะผมใช้ แสลน มุงด้วย ป้องกันได้ครับ.
การจัดจำหน่าย
การจัดจำหน่าย ถ้าเราทำกิน เราก็ต้องกินนะครับ ลดรายจ่าย ถ้าเหลือกินค่อยขาย การขายของผมไม่ได้แร่ขายนะครับ เพราะผมขายของไม่เป็น แต่ว่าผมจะทำให้คนซื้อมาซื้อเองถ้าเค้่าอยากกิน ก็แค่ปล่อยข่าวแค่นั้นหละครับ ปากต่อปาก ไม่นากก็หมดครับ แต่ถ้าตั้งใจขาย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะขายได้ไหม นอกจากขายส่ง มันจะไม่คุ้มเท่าไร เอาไว้กินดีกว่า ซื้อเค้ากิน โลละ 100-140 แต่ว่าขายส่งโละำ 60 มันต่างไหมครับ ถ้าเราคิดอาไรก็แล้วแต่ราคาขาย มันไม่คุ้ม ถ้าเราคิดราคาซื้อมันคุ้มสุดๆ คือลงทุนไป 900 บาท เสียเวลาเลี้ยง 4 เดือน ขายได้ 1500 บาท เหลือ 600 ได้เดือนนึงร้อยกว่าเอง ไม่รู้จะคุ้มไหม แต่ถ้าคิดราคาซือ ก็คือ ทุน 900 ก็ขายราคาซื้อคือ ผมขาย โลละร้อย (ขนาดนั้นลูกค้าก็เยอะ ) และทำกิน ครั้งนึงก็คิดไปครั้งละ50 บาท เพราะถ้าเราซื้อผัดเผ็ดกบครั้งนึงก็ ประมาณ 50 บาทแล้วครับ เรากินผัดเผ็ดกบ 10 ครั้งก็ 500 แล้วครับ และก็ขายได้บ้างสัก 5 โล แค่่นี้ก็ได้ทุนคือนแล้วครับ นี่แหละครับทีึ่ผมคิดว่า การลดรายจ่ายครับ
อย่าลืมนะครับ ซื้อเค้ากิน 50 บาท แต่ถ้าเรามีกิน ก็ประหยัดไป 50 บาทนะครับ .

การเพาะเห็ดนางฟ้าไว้กิน

เริ่มจาก การศึกษาการเพาะเห็ด

การวางแผนการเพาะเห็ด เริ่มจาก การสร้าง โรงเรือน การจัดหาก้อนเชื้อ อุปกรณ์การรดน้ำ (ง่ายมากเก็บอย่างเดียว)

เริ่มปฎิบัติจริง หลังจากได้ศึกษาการเพาะเห็ดแล้วก็หาข้อมูลเกี่ยวกับก้อนเห็ด และหาแหล่งจำหน่าย ก้อนเชื้อ

การหาแหล่งจำหน่ายก้อนเชื้ออาจสอบถามจากคนในพื้นที่ก็ได้นะครับ มันจะยากตอนแรกเท่านั้น

สำหรับเห็ดนางฟ้า จะมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่างนะครับ

มี 1. ดอกสีขาว เรียกว่า เห็ดนางฟ้า ฮังการี่ คือ ได้เชื้อมาจากประเทศ ฮังการี่ ช่อใหญ่ น้ำหนักดี กินอร่อย

STA44783

2 . ดอกสีดำ เรียกว่า เห็ดนางฟ้า ภูฐาน ได้เชื้อมาจากประเทศ ภูฐาน ช่อมีจำนวนดอกน้อยแต่ว่าดอกใหญ่ กรอบ นุ่ม อร่อยกว่าสีขาว คนนิยมมากกว่า

STA45019

การสร้าง โรงเรือน

ผมจะมองหาอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ นำมาทำให้เป็นประโยชน์

เริ่มจากตั้งเสา สูง 2 เมตร (มีอยู่แล้ว)

มุงหลังคา ใช้เศษกระเบื้องเก่า

และได้ ซื้อ หญ้า แฝก มามุงฝาประมาณ 500 บาท

ส่วนข้างในโรงเรือน ถมด้วยทราย เพื่อรักษาความชื้นของโรงเรือน ถ้าไม่มีทรายก็ไปซื้อที่บรรจุเป็นกระสอบปุ๋ยนะครับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง กระสอบละ 60 บาท

STA44619

STA44626

STA45015

STA44695

STA44698

Friday, July 9, 2010

2 การเลี้ยงไก่ไข่


การเลี้ยงไก่ไข่ไว้่สำหรับลดรายจ่ายของครอบครัว
เมื่อเราตั้งเป้าหมาย แล้วว่าจะเลี้ยงไก่ไข่
ขั้นตอนต่อไปก็คือการวางแผน การเลี้ยง (ขงเบ้ง กว่าว่า รู้เขา รู้เรา รบสิบครั้งชนะสิบครั้ง)





1.เริ่มศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่ หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด และศึกษาจุดคุ้มทุน
ในที่นี้ผมศึกษาดูแล้วสามารถหาจุดคุ้มทุนได้ จะอธิบายให้ฟังภายหลังนะครับ ทฤษฏีเยอะพอสมควร2 วางแผนการเลี้ยงโดยเริ่มจา การสรรหาไก่ไข่ สร้างกรงไก่ หรือคอกไก่ ประเมิณราคา การกำจัดกลิ่น สิ่งแวดล้อมการเป็นอยู่ของไก่ โรคของไก่
เมื่อวางแผนเสร็จ ผมก็เริ่มยึดจุดยุทธศาสตร์ โดยการวางผังโรงไก่ วิเคราห์ เรื่องกลิ่นและการกำจัดกลิ่นด้วย
แล้วก็ออกแบบ โรงไก่ไข่ (ใช้เวลานานพอสมควร ) ทุกอย่างอยู่ในหัว เมื่อทำเสร็จต้องเหมือนกับที่วางแผนไว้ เริ่มจาก
พื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานแล้ว
ต่อไปก็ปรับพื้น ตั้งเสาเพื่อทำโรงไก่ตามที่ออกแบบไว้

เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะครับ ใช้พื้นที่น้อยครับ กว้าง 60 ซม. ยาว 2 เมตร

ส่วนพื้นเป็นตะแกรงนะครับ ทำให้เอียงพอใข่ไหลออกมาได้ ตะแกรงตาถี่ประมาณ 1 นิ้ว หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือร้านขายอุปกรณ์การเกษตร

หลังจกานั้นก็เอาไม้ไผ่ทำเป็นกรง ปิดหน้า ปิดหลัง ใส่หลังคา ผมใช้กระเบื้องเพราะราคาถูก พอกับหญ้าแฝกแต่อายุการใช้งานนานกว่้า ใส่หลอดไฟให้มันด้วยครับ เพราะมันขี้กลัวมันจะตกใจ ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรครับ

เอา แสลนมาปิดกันลมกันฝน แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ กับโรงไก่ไข่ ใช้เวลาทำไม่นาน แต่ว่าใช้เวลาในการออกแบบ นานกว่าอีกนะครับ
และแล้วก็ได้ไก่ไว้ในกรงแล้วหละครับ น่ารักไหมครับ
คงสงสัยใช่ไหมทำไมไก่มันใหญ่เร็วจัง 555555.. ไม่ต้องสงสัยครับ ร้านเกษตร เค้ามีไก่สาวไว้ขายให้เกษตรกร ครับ เราไม่จำเป็นต้องซื้อลูกเจี๊ยบมาเลี้ยงให้มันโต เสียเวลาครับ บางทีอาจจะไม่โตก็ได้
เค้ามีำไก่สาว อายุประมาณ 18 สัปดาห์ ไว้ขายครับ ไก่อายุ 21 สัปดาห์มันจะเริ่มไข่ครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ไก่แก่ใกล้จะหมดไข่ไม่ใช่ครับ อย่างของผมอยู่ที่โคราชครับ ซื้อไก่ของ ซีพี ครับ มันมีของ สหฟาร์มด้วยแต่ว่าร้านจำหน่ายคนละร้านกันครับ ผมซื้อไก่ซีพี อาหารก็ซีพี ครับ

ต่อไปครับ เรื่องกลิ่นครับ ผมใช้แกลบ กลบขี้ไก่นะครับ มันจะไม่มีกลิ่นเลยครับ


และที่เห็นไก่จะอยู่ช่องใครช่องมันนะครับ เราจะไม่ปล่อยให้มันอยู่รวมกัน มันมีข้อเสียเยอะกว่าข้อดีนะครับ เหตุผลมีครับ คือ 1.เราสามารถรู้ได้ว่าไก่ตัวไหนไข่หรือไม่ไข่ 2.การจำกัดพื้นที่ของไก่จะทำให้ไก่ออกไข่ดีครับ เพราะว่ามันเกิดมาเพื่อ กิน นอน ปวดท้อง แล้วก็ไข่ ถ้ามันเดินมาก หรือเคลื่อนไหวมากจะทำให้ร้างกายมันสมบูรณ์ แข็งแรงดีเกินไป ไม่ปวดท้อง และก็จะไม่ไข่ 3. สามารถควบคุมอาหารได้ด้วยครับ เพราะว่า ไก่ 1ตัวจะกินอาหารประมาณ 70-90 กรัม ต่อวันนะครับ ถ้ากินมากกว่านี้จะทำให้ไก่อ้วน มันจะไม่ไข่นะครับ ถ้ามันได้กินอาหารเต็มที่ 4. ป้องกันไม่ให้มันจิกก้นกันนะครับ เมื่อมันออกไข่ไปนานๆ ถ้าปล่อยให้มันอยู่รวมกันมันจะจิกก้นกันนะครับ บางตัวโดนจิกก้นจนตายเลยนะครับ สรุปแล้ว กันกรงใครกรงมันดีกวาครับ

การเลี้ยงนะครับ
1. ให้อาหาร 70-90 กรัมต่อวันครับ ของผมเลี้ยง 6 ตัว ให้อาหารวันละ 5 ขีดครับ ค่าอาหารประมาณ 7 บาทครับ ให้เช้า กับเย็นครับ 2 เวลา คือ ตักมา 5 ขีด ให้เช้าครึ่งนึง เหลือครึ่งนึงให้ ตอนเย็นครับ .

2. ให้น้ำอย่าให้ขาดนะครับ ไก่กินอาหาร มันจะขาดน้ำไม่ได้เลยครับ และน้ำต้องผสม วิตามิน และยาแก้หวัดด้วยนะครับ ถามร้านขายไก่ดูครับ เค้ามีขายพร้อม ถ้าไม่มีวิตามินผสม กับน้ำ จะทำให้ไข่ไก่ไม่โตนะครับ

อย่างของผมซื้อไก่มาวันที่ 6 ม.ค ประมาณวันที่ 2 อาทิตย์ไก่ก็เริ่มไข่ให้ได้ดีใจแล้วครับ ประมาณ วันที่ 30 มค. มันก็ออกไข่ครบทุกตัว น่าภูมิใจมากครับ ทุกวันนี้ ได้ไข่วันละ 6 ฟอง กินวันละ 2- 4 ฟอง ที่เหลือก็ขายให้กับคนแถวบ้าน แล้วเอาเงินขายไ่ข่ไปซื้ออาหารไก่ ลงตัวพอดีครับ
ตอนนี้ผมลบคำที่ว่า เอาเงินค่าอาหารไก่ไปซื้อไข่กินดีกว่า ได้แล้วครับ ผมได้คำนวนแล้วได้คำตอบที่ว่า ถ้าเราเลี้ยงขายอาจจะได้กำไรน้อย ถ้าเลี้ยงขายอย่างน้อยต้อง ร้อยตัวขึ้้น นะครับถึงจะคุ้มต่อวัน และระยะคืนทุนก็นานพอควรครับ เกือบปีหละครับถึงจะได้ ค่าต้นทุนไก่ที่ซื้อมา
ส่วน การเลี้ยงเพื่อกิน พอเพียงอย่างว่าหนะครับ คือเอาไว้กิน เหลือก็ขายครับ คือเราจะคิดราคาที่เราไปซื้อไข่มากิน 10 ฟอง 30 บาท อยู่ได้ 3 วัน ครับ คิดอย่างนี้คุ้มสุดๆ เลยครับ และไม่น่าเชื่อว่า ที่เหลือจะสามารถขายได้แล้วเอาเงินที่ขายไ้้ด้ไปซื้ออาหารไก่ได้อีก คุ้มครับ ถ้าเราจัดการดีๆ อย่างที่ผมทำนะครับอยากให้ใครที่มีเวลา มีพื้นที่ ลองทำดูครับ ประหยัดรายจ่ายได้ดีมากๆๆ

1 สิ่งแรก ต้องคิด และสร้าง เพื่อเป้าหมาย

พื้นฐานคือการ พึ่งตนเองก่อน

STA45218

สิ่งแรกที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือการ ลดรายจ่าย

จะทำอย่างไรถึงจะลดรายจ่ายได้ ก็คือ

ตื่นขึ้นมาทำอาไรบ้าง เริ่มจาก 1 อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงๆฟัน * ต้องใช้ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม ทาแป้ง ทาครีม * ในส่วนนี้ ยังไม่สามารถลดได้ ปล่อยไปก่อน

ต่อไป ก็ กินข้าว อาหารตอนเช้าก็จะเป็น ทอดไข่ หมูทอด ผัดกระเพา หรือต้มยำไก่ * ไข่ น้ำมัน แกส หมู พริก กระเที่ยม กระเพา ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำปลา น้ำตาล มะขาม มะนาว * ในส่วนนี้ ผมสามารถลดได้บ้าง บางอย่าง

ไปทำงาน ก็จะเดินทางด้วยรถ ต้องใช้ น้ำมัน และที่ทำงานต้องซื้อข้าวกิน ในส่วนนี้ลดไม่ได้ต้องจ่าย ไม่เป็นไร

เลิกงานต้อง ซื้อกับข้าว หรือทำกินเอง อาบน้ำ นอน

ตอนนี้ผมวิเคราะแบบคร่าวก่อนว่าจะลดส่วนไหนได้บ้าง

มี ไข่ - ผมวิเคราะห์ว่า กินเฉลี่ยวันละ 3 ฟอง เป็นเงิน 10 บาท 1เดือนก็ 300 บาท ลดได้จะดีมาก

กระเพา ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ปลูกเอาครับ เพราะถ้า ใครอยู่ห้องเช่าใกลบ้านปลูกไม่ได้ก็จะรู้ว่า เป็นเงินไม่น้อยที่เดียว

ส่วนที่เหลือต้องซื้อเอาครับ ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยเราก็ยังคิดที่จะลดรายจ่าย

ผมลงทุนซื้อไก่พันไข่ 6 ตัว + อาหาร 1 กระสอบ + ต้นทุนทำโรงเรือนไก่ไข่ ประมาณ 1000+400+600 = 2000 บาทประมาณนี้ เมื่อคิด แล้ว ผมต้องกินไข่ที่เลี้ยงไว้ถึง 7 เดือนนะครับถึงจะคุ้ม

ตอนนี้ ผมเลี้ยงมายังไม่ถึง 7 เดือนแต่ว่าคุ้มแล้วครับ และมันสามารถเลี้ยงตัวเองได้ด้วย คือ ผมจะเก็บใข่ใส่แผงไว้ครับ มันออกไข่6 ฟองทุกวัน กินไม่ทันครับ พอเต็มแผงก็ขายครับ ได้เงินมา ก็เก็บไว้ซื้ออาหารครับ ไม่เปลืองหรอกครับ อาหาร 6 ตัวผมให้วันละ 5 ขีด ตามหลักวิชาการครับ ให้มากเดี๋ยวมันไม่ไข่ครับ อาหาร 1 กระสอบ ได้ 30 กิโล ตกกิโลละ 13 บาท ครึ่งโลก็ตีไป 7 บาท ได้ไข่ 6 ฟองก็ 20 บาท จะได้กำไร 13 ่บาทต่อวันกครับ และอาหาร 1 กระสอบ จะอยู่ได้ 60 วัน หรือ 2 เดือนครับ รู้สึกว่าไม่เปลืองเพราะซื้อทีนึง ก็อย่าได้นานมากๆ ดีกว่าซื้อไข่ ทุก 3 วันครับ สรุปแล้วเลี้งไก่ดีมากครับ ไม่ต้องดูแลมากด้วยครับ ให้อาหารกับน้ำเก็บเกินตลอดครับ ถ้าอยา่กศึกษาการเลี้ยงไก่ไ่ข่ของผมก็ไปชมได้ครับ ที่ การเลี้ยงไก่ไข่

ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ

เคยมีคนบอกผมว่า เอาเงินซื้ออาหารไก่ไปซื้อไข่กินดีกว่า ในช่วงที่กำลังศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่ ก็เลยถามคนที่มีประสบการณ์ เค้าแนะนำผมอย่างนี้ แต่ผมก็คิดว่ามันน่าจะมีจุดคุ้มอยู่แต่ว่าคงยังไม่มีใครทำให้เห็น

เมื่อก่อนจะงบ กองทุนของหมู่บ้าน งบ เอสเอ็มแอล หรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ หมู่บ้านระแวกติดกันนะครับ เค้าจะได้ไก่ไข่สาว คนละ 10 ตัว พร้อมกรง และได้ วัว 1 ตัว แต่ว่า ชาวบ้านไม่รู้หลักการที่แท้จริง จึงพากัน ฆ่ากันกินทีละตัว ทีละตัว จนหมด และ วัวที่เลี้ยงไว้ก็เชือกพันคอตาย ที่ละตัว ทีละตัว จนไม่เหลือ สรุปตายหมด เขาว่างั้น และมีคนอาสาไปหาซื้อกรงเก่าที่ทางราชการให้มาที่ไม่ใช้แล้วมาให้ผม ก็คือแนวร่วมของผมหละครับ แต่ว่าชาวบ้านเค้าก็ไม่ขายเพราะว่าของหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ว่้างั้น แต่ไก่ตายวัวตายไมเป็นไร ดูความคิดของเค้า แม้ มันน่านัก ไม่เป็นไร ไม่ได้กรงราคาูถูกเราก็ทำเอาก็ได้ ผมจึกได้ทำการออกแบบร่วมกับวิศวกรที่ทำงาน สุดท้ายก็ได้แบบอย่างที่ผมทำนี่หละครับ หลังจากออกแบบมาหลายสิบแบบ

เบื้องหลังแห่งความสำเร็จก็เสร็จสิ้นไป แต่ทว่ามีมากว่านั้นอีก และดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่น่าภูมใจก็ว่าได้คือเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานหลังจากได้เก็บไข่กินทุกวัน วันละ 6ฟอง ทุกวัน ทุกวัน โครงการลดรายจ่ายของผมก็ดังกระฉ่อนไปทั่ว มีผู้คนให้ความสนใจมาก มีแต่คนคิดอยากจะทำ มีคนพูดปากต่อปาก และสิ่งที่ผม ทำก็ไม่ใช่เพียงแค่ไก่ไข่อย่างเดียว มีทั้ง เลี้ยงกบ เพาะเห็ดนางฟ้า เลี้ยงปลาดุก ปลูกผักสวนครัว และสินค้าของผมก็มีทั้งไข่ไก่ เห็ดนางฟ้า กบ ปลาดุก ที่ได้ขายและลูกค้าก็อยากชม จึงมีชาวบ้านจากหลายท้องที่มาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ (ลืมบอกไปผมเป็นคนบรรชาการ และเป็นกรรมกรด้วย ควบ 2 ตำแหน่งคือ วางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง ส่วนการดูแล ทำเป็นรายการให้แม่ดูแล เช่น การให้อาหารไก่ต้อง ตักมา 5 ขีด แบ่งให้ 2 เวลาเช้าเย็น น้ำต้องผสมวินตามิน 2 ช้อน ยา 1 ช้อน ต่อน้ำ 1ถัง เป็นต้น )

การมาเยี่ยมเยียนของชาวบ้านทำให้มีแต่คนอยากทำ แต่เค้าไม่มีทุนซื้อไก่ผมก็น่าเห็นใจอยู่เพราะไก่ตัวละ 175 บาทตอนนั้นนะครับ บางคนอยากเลี้ยงกบ บางคนอยากเพาะเห็ดผมก็รับฝากซื้อก้อนเชื้อเห็ดไม่เอากำไรด้วยเพียงแค่ต้องการมีเพื่อนร่วมอุดมการการพึ่งตนเอง แต่ว่าความจริงก็ถูกเปิดเผยคือว่าอีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้า พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระองค์ท่านทรงเสด็จมาเปิด โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช และชาวบ้านต่างพากันทำเกษตรพอเพียงเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของชุมชนอาไรประมาณนี้ บางคนลงทุนทำโรงเห็ดฟาง หมดหลายหมื่น แต่ก็มีหลายคนมาปรึกษาแม่ผมและก็ขอซื้อกบไปเลี้ยงให้ดูครบวงจร ถึงตอนนี้ผมจึงรู้ว่ายังไม่มีใครเริ่มกันเลย พอเพียงนี่ ในหลวงท่านสอน ทีวีก็ออกอากาศ ตัวอย่างเกษตรกร ที่พึ่งตนเองก็มีเยอะ แต่ยังขาดอาไรบางอย่างอยู่ คือคนที่เป็น อสม. อบต. ผู้ใหญ่บ้าน.น่าจะทำเป็นตัวอย่างสักคน ให้คนเค้าเข้าถึง ผู้นำยังนำไม่ได้แล้วใครจะทำได้ในเมื่อทำไปก็ไม่คุ้ม นี่คือความคิดที่ผิด แต่สุดท้าย พระองค์ท่าน ทรงให้ตัวแทนพระองค์มาเปิดแทน และ คนที่ตั้งท้องก็เข้าร่วมโครงการสายใยรัก เค้าก็จะมีงบมาให้ ในการทำเกษตรพอเพียง และสิ่งที่ผมภูมใจก็คือ เค้าให้เงบ ซื้อไก่ หรือกบ หรือปลามาเลี้ยงไว้กิน (เหมือนอุดมการณ์ของผมเลย)แล้วชาวบ้านก็ไม่ฆ่าไก่แล้วตอนนี้ เค้ามา ดูอย่างกรงไก่ไข่ของผม บางคนมาวัดทุกตารางนิ้วเลย นี่แหละคือสิ่งที่ผมภูมิใจนักคือทำให้เค้าเห็นว่า มันคุ้ม มันเป็นจริง พอเพียงพึ่งตนเอง ลดรายจ่ายได้ อย่างในหลวงท่านทรงสอนประชาชนของท่าน ตอนนี้เราต้องข้ามขั้นตอนกันแล้วหละครับ เพราะนักการเมืองท้องถิ่นส่วนใหญ่เค้าจะมีฐานะกันทั้งนั้นใช้แต่เงินกันฟุ่มเฟือนก็เพราะเราเอาอย่างเค้าคนจนอย่างเราหาเงิืนได้น้อยแต่อยากได้มากๆ ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน บางคนหมดตัว บางคนหมดที่นา ทำนาต้องเช่านาตัวเองเห็นแล้วน่าสงสาร ในหลวงพระองค์ท่านทรงมองใกลกว่าเรามาก พระองคฺ์ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านจึงสอนให้ประชาชนของอยู่อย่างพอเพียง ประ่ชาชนอยู่ได้ท่า่นก็สบายพระทัย ถ้าประชาชนอยู่ไม่ได้ไม่รู้ว่าพระองค์ท่านจะรู้สึกอย่างไร ท่านทรงคิดวิเคราะห์เป็นอย่างดีแล้่วท่านจึงให้ราษฎรปฎิบัติ ก็แล้วแต่ว่าใครจะเข้าถึงหรือไม่ แต่หลักสำคัญประจำใจของผมคือ ทำเพื่อกิน เหลือกินจึงค่อยขาย ไม่ใช่ทำไว้ขาย เหลือขายถึงค่อยกิน ใคร ที่ทำเพื่อหวังเงินมักจะขาดทุน แต่คนที่ทำเพื่อกินเพื่ออยู่จะเหลือกินเหลือใช้ นี่แหละตัวอย่างของคนจน ทำให้เค้าเห็นประโยชน์ที่แท้จริง ไม่ได้ไปโฆษณาว่าขายได้เท่านั้น ได้เท่านี้ มีแต่จะว่ากินไม่ทันก็เลยเอามาขาย ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการสายใยรักก็เลยมีไก่ไข่ไว้กินอย่างผม และกบผมเลี้ยงไว้กินเหมือนกันแต่ว่าเกิดความสงสารไม่กล้า ฆ่าเพราะเลี้ยงดูมันตั้งแต่ยังเล็กจนเติบโต แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่เราทำเราทำด้วยใจ ผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ผมเลี้ยงกบสะอาด ไม่มีกลิ่นสาบโคลน ไม่คาว มีคนเค้าเลี้ยงขาย แต่ว่าคนเค้านิยมมาซื้อของผมเพราะไม่คาว สะอาด เค้าว่างั้น ผมขายแพงด้วย แต่ลูกค้าก็มาซื้อตลอด ผมเลี้ยงกบ สามร้อยกว่าตัว ได้กินเองแค่ 10 ตัว เพระไม่กล้าฆ่ามัน กว่าจะฆ่าได้ก็แผ่เมตตาไปหลายจบสรุปกบก็ได้ทุนไ้ด้กำไรด้วย ส่วนผักสวนครัวไม่ต้องพูดถึง แต่พูดสักนิดก็ดี คือ ผมปลูก บวบ ไว้กิน เครือบวบเลื้อยไปทั่ว เป็นร่มเงาให้ทั้งไก่ ทั้งกบ และทำให้บริเวณบ้านไม่ร้อยเหมือนแต่ก่อน รู้สึกได้ว่าสดชื่นมากๆ ลมพัดที ก็เย็น สบาย

แต่การทำอาไรใดๆ ก็มีปัญหาเกิดขึ้นตลอดเราต้องแก้ปัญหาเพื่อ


STA45287

ทดลองเลี้ยงปลาดุกดูว่าจะเป็นยังไง โตเร็วมาก และสามารถทำเป็นอาหารได้ดีด้วย